"ควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว หรือ 2 ลิตรต่อวัน" คือปริมาณน้ำที่ควรดื่มขั้นต่ำเพื่อรักษาสมดุลของร่างกายที่ต้องสูญเสียน้ำออกไปต่อวัน ถ้าอย่างนั้นลองมาคำนวนกันเล่นๆว่าเราต้องจ่ายเงินค่าน้ำดื่มเท่าไหรในระยะเวลาซัก 5 ปี 2 ลิตรต่อวัน คูณด้วย 365 วัน เท่ากับ 730 ลิตรต่อปี คูณด้วย 5...
สุขภาพ
ปกติแล้วน้ำประปาเมื่อผ่านการบำบัดแล้ว ก่อนที่จะแจกจ่ายไปสู่ครัวเรือนจะมีการเติมแร่ธาตุลงไปในน้ำประปาตามมาตราฐานคุณภาพน้ำดื่ม ซึ่งจะมีแคลเซียมเป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่เติมลงไป ซึ่งเมื่อนำน้ำผ่านเข้าเครื่องทำน้ำคังเกน กระบวนการ Electrolysis ภายในเครื่องจะทำการเหนี่ยวนำแร่ธาตุในน้ำรวมทั้งแคลเซียมให้มารวมกันอยู่ในฝั่งของน้ำด่างเพื่อให้เป็นน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ ซึ่งจะมีปริมาณแคลเซียมต่อลิตรสูงที่สุดเมื่อเทียบกับน้ำดื่มทุกประเภทรวมทั้งน้ำแร่ธรรมชาติด้วย และด้วยปริมาณแคลเซียมที่มีมากซึ่งละลายอยู่ในน้ำนี้อาจจะทำให้แคลเซียมบางส่วนจับตัวกันเป็นจนกลายเป็นผงขาวขุ่นให้เห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยแคลเซียมที่จับตัวกันให้เห็นนั้นจะเรียกว่า แคลเซียมคาร์บอเนต เป็นชนิดเดียวกันกับแคลเซียมเม็ดที่รับประทานเพื่อเสริมกระดูกทั้งในเด็กและผู้สูงอายุ หรือ ChalkCap ที่ซื้อจากร้านขายยานั้นเอง ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแน่นอน ส่วนความกังวลที่ว่าเมื่อดื่มน้ำที่มีแคลเซียมมากๆแล้วจะกลายเป็นนิ่วนั้น ในทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่าอุณหภูมิร่างกายไม่สามารถทำให้แคลเซียมตกตะกอนและกลายเป็นนิ่วภายในร่างกายได้ แต่สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่ร่างกายขาดน้ำหรือดื่มน้ำน้อยจนทำให้ปัสสาวะที่ขับออกมานั้นมีความเข้มข้นของสารละลายต่างๆมากจนอาจจะตกตะกอนในทางเดินปัสสาวะได้ ดังนั้นยิ่งดื่มน้ำคังเกนมากๆจะยิ่งช่วยลดโอกาสในการเกิดนิ่วขึ้นได้แน่นอน...
"เพื่อสุขภาพควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว" คงเคยได้ยินกันมาเสมอ แต่ถ้าจะให้ถูกต้องตามคำแนะนำจาก องค์การอนามัยโลก แล้วนั้นจะต้องคำนวนจากมวลร่างกายของแต่ละคน โดยคำนวนจากสูตรด้านล่างนี้ \displaystyle \frac{weight (kg) * 66}{2000} = {drink water (liter/day)} อธิบายคือ คำนวนจากน้ำหนักตัวหน่วยเป็นกิโลกรัม คูณด้วย 66 แล้วหารด้วย...